นวดตารักษาต้อ’ศาสตร์ทางเลือก...ที่รอการพิสูจน์

เป็น ข่าวคราวเกรียวกราวทีเดียวสำหรับการนวดรักษาตารักษาโรคต้อหิน ถือว่าโด่งดังจากปากต่อปากว่ารักษาแล้วได้ผล ทำให้ตากลับมามองเห็นได้ชัดเหมือนเดิม ซึ่งเป็นธรรมดาที่คนจำนวนมากแห่กันเข้ารับการรักษา ทว่า วิธีการนี้ถูกมองว่าเป็นวิธีการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้จนในที่สุด กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) สั่งระงับการบริการดังกล่าว

 
 
      glucoma.jpeg สำหรับ “โรคต้อหิน” (Glaucoma) ถือ เป็นสาเหตุทำให้ตาบอดถาวรที่พบบ่อยเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยมีโครงการรณรงค์ให้ประชาชนตรวจคัดกรอง เพื่อให้ทำการรักษาได้ทันและลดปัญหาตาบอดได้ ซึ่งทางการแพทย์แผนปัจจุบันนั้น การรักษามีทั้งการใช้ยา การยิงเลเซอร์ และการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรค แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องของฐานะการเงิน และปัจจัยอื่นๆ ในหลายอย่างทำให้ผู้ป่วยต้อหินบางรายต้องยอมจำนนท์กับชะตากรรมจนต้องกลาย เป็นคนตาบอด
       
       นพ.สมเกียรติ อธิคมกุลชัย จักษุ แพทย์โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้ริเริ่มการรักษาโรคต้อหินด้วยศาสตร์การนวด กล่าวว่า ส่วนมากผู้ป่วยโรคต้อหินมักต้อแบกรับภาระค่ายาซึ่งมีราคาแพง และผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้ยาทุกวันไปเรื่อยๆจนกว่าจะสิ้นอายุขัย ตัวยาที่แพงที่สุดในปัจจุบันคือยากลุ่ม Prostaglandin analog ได้แก่ Xalatan eyedrop, Travatan eyedrop ซึ่งจักษุแพทย์นิยมใช้ เพราะมีประสิทธิภาพสูงในการลดความดันลูกตา ราคาขวดละประมาณ 1,000 บาท ใช้ได้ 1 เดือน แต่ผู้ป่วยต้อหินเรื้อรังความดันลูกตามักจะค่อยๆเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องรับยาเพิ่มเรื่อยๆ ไม่ต่ำกว่า 2 ชนิด ซึ่งคนยากจนไม่มีเงินรักษา จึงได้คิดค้นวิธีการนวดตารักษาต้อหิน โดยเน้นให้ผู้ป่วยปฏิบัติด้วยตนเอง คือ การใช้ส้นมือประกบให้เต็มเบ้าตานิ่งๆ ค้างเอาไว้ 2 นาทีครึ่ง วันละ 6 ครั้ง ซึ่งคล้ายกับกากดตาด้วยลูกบอลที่จักษุแพทย์ใช้ทั่วไปหากแต่วิธีนี้ใช้มือแทน
       
       “เรา จะสอนให้ผู้ป่วยนวดเองแต่จักษุแพทย์จะต้องดูแลแนะนำให้ดีและยังต้องตรวจ ติดตามผลต่อเนื่อง ซึ่งผลตอบรับจากผู้ป่วยต้อหินดีมาก เนื่องจากลดการใช้ยาลดความดันลูกตาช่วยให้ประหยัดขึ้น อีกทั้งใช้วิธีการรักษาลักษณะนี้มานาน 7-8 ปี ยังไม่เคยพบผลข้างเคียงที่ชัดเจน” นพ.สมเกียรติ อธิบาย

   เทคนิคการนวดตา โดยการใช้ส้นมือประกบให้เต็มเบ้าตานิ่งๆ ค้างเอาไว้ 2 นาทีครึ่ง วันละ 6 ครั้งนายบรรจบ พิริยะประกอบ อายุ 65 ปี วิศวกร ข้าราชการบำนาญ ผู้ป่วยในความรับผิดชอบของ นพ.สมเกียรติ กล่าวว่า ตนป่วยต้อหินมาตั้งแต่ ปี 2548 รับการรักษาด้วยยาหยอดตามานานใน รพ.ที่กรุงเทพฯ ก็ไม่หาย แต่พอเปลี่ยนรพ.และรักษาตัวด้วยวิธีนวดตาเช้า เที่ยงเย็น ครั้งละ 30 นาที โดยแรกๆก็หยอดยาด้วยนวด กดด้วย แต่ทุกครั้งที่ใช้ยาหยอดตาจะรู้สึกปวดและแสบ จึงลดยาลงเรื่อยๆ กระทั่งเลิกใช้ไปแล้วขณะนี้ยอมรับว่ากลับมามองเห็นชัดเจน
       
       อย่างไรก็ตามราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยได้ออกมาให้ข้อมูล ว่า การนวดตาเพื่อรักษาต้อหินไม่รับการยอมรับทางการแพทย์และยังไม่ได้มาตรฐานใน การรักษา ดังนั้นผู้ป่วยควรพบจักษุแพทย์เพื่อปรึกษาและหาวิธีการรักษาที่ได้ผลดีกว่า ทั้งนี้หากผู้ป่วยใช้วิธีการรักษาด้วยการนวดตาเพียงอย่างเดียว อาจทำให้เสียโอกาสในการรับการรักษาโรคต้อหินด้วยวิธีมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียลานสายตามากขึ้น นำไปสู่ภาวะตาบอดได้ในที่สุด ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นต้องศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานก่อน จึงจะสามารถนำการรักษานั้นมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยได้
       
       ขณะที่นพ.เทวัญ ธานีรัตน์ ผอ.สำนัก การแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สธ. กลับมองว่า เทคนิคนวดตาถือเป็นการแพทย์ทางเลือก แต่ยังไม่ได้รับการเผยแพร่ที่หลากหลาย จึงยังมีกระแสต่อต้านอยู่ ดังนั้นในเร็วๆนี้ ทางสำนักการแพทย์ฯ จะนำเสนอเรื่องนี้ต่ออธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ เพื่อจัดสัมมนาเผยแพร่วิธีการนี้แก่จักษุแพทย์ทั่วไป หากมีการตอบรับที่ดีก็สามารถผลักดันสู่การรักษาเข้าระบบแพทย์ทางหลักได้ ส่วนความเป็นไปได้ในการยอมรับนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าคงไม่ยากนัก เพราะจักษุแพทย์แผนปัจจุบันคิดค้นไม่ใช่แพทย์พื้นบ้าน

 
เทคนิคการนวดตา โดยการใช้ส้นมือประกบให้เต็มเบ้าตานิ่งๆ ค้างเอาไว้ 2 นาทีครึ่ง วันละ 6 ครั้ง

 

*ข้อความที่เป็นโฆษณาทั้งหมดใน eldercarethailand.com ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณของท่านในการตัดสินใจ กรุณารวบรวมข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจเลือก ทาง Elder Care Thailand ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของทางศูนย์ดูแลฯ ใด ๆ ทั้งสิน*

Copyright © 2011 ข้อมูล ดูแลผู้สูงอายุ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ การดูแลผู้สูงอายุ Eldercarethailand. Designed by eldercarethailand